เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
สวัสดีค่ะ nonthaburi2go ยินดีต้อนรับค่ะ
จังหวัดนนทบุรี
เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งในท้องที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 4.12 ตารางกิโลเมตรหรือ 2,489 ไร่ เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่... วิกิพีเดีย


เลือกจังหวัดที่ต้องการจองโรงแรม
สถานที่สำคัญในนนทบุรี

แหล่งท่องเที่ยว


 
 
 
จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์
 
  •   รายชื่อวัดในจ.นนทบุรี »
  • รายชื่อโรงแรมในจ.นนทบุรี »
  • ค้นหาโรงแรมใน นนทบุรี»
  • ร้านอาหารในจ.นนทบุรี »
  • ปฏิทินกิจกรรมอิมแพ็คฯ »
  • จองตั๋วเครื่องบิน »
  • ตารางเวลารถไฟ »
  • ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต (Ford EcoSport) มอบ Gift Voucher ให้ขับฟรีไปหัวหินพร้อมห้องพักสุดพิเศษ

    ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มอบ Gift Voucher ให้ขับฟรีไปหัวหินพร้อมห้องพักสุดพิเศษ
    ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มอบ Gift Voucher ให้ขับฟรีไปหัวหินพร้อมห้องพักสุดพิเศษ
            ฟอร์ด ประเทศไทย จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ขับรถ SUV ฉบับคนเมืองอย่าง "ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ใหม่" ให้คุณขับฟรีไปเที่ยวหัวหิน และเข้าพักที่ Sheraton Hua Hin Resort & Spa ห้อง Deluxe Garden View 1 คืน รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
          
           เงื่อนไข
           - Gift Voucher หมดอายุวันที่ 31 ต.ค. 2557
           - สามารถใช้ Gift Voucher เพื่อเข้าพักโรงแรมได้ในช่วงวันอาทิตย์ - พฤหัส เท่านั้น
          
           สำหรับผู้ที่สนใจ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ https://www.facebook.com/FordEcoSport หรือ www.ford.co.th หรือโทร (0) 2627 3501 ext. 159 :: Report by FLASH

    ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มอบ Gift Voucher ให้ขับฟรีไปหัวหินพร้อมห้องพักสุดพิเศษ
    ข้อมูลจาก: ASTVผู้จัดการออนไลน์

    พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue ที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนนทบุรี


    พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue ที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนนทบุรี



    พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue ( Toy Museum ) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนนทบุรี เป็นสถานที่รวบรวมของเล่น ของสะสม จากการ์ตูน ภาพยนต์ ที่ผู้ก่อตั้งได้สะสมมา โดยที่ผู้ก่อตั้งไม่อยากจะเก็บไว้ดูคนเดียว จึงอยากแบ่งปันให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสถึงความทรงจำ ผ่านเรื่องราวการ์ตูน ภาพยนต์ต่างๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ราวกับย้อนเวลากลับไปอดีตอีกครั้ง

    โดย Tooney Venue ( Toy Museum ) ก่อตั้งเมื่อปี 2555 และจะเปิดในวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. ราคาเข้าชมค่าชมผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท Tel. 080-2896055 , 0866269521 รายละเอียด https://www.facebook.com/TooneyMuseum

    Tooney Venue ( Toy Museum ) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 300 ตร.วา ส่วนของพื้นที่อาคารจัดแสดงทั้งหมดจะมีขนาดประมาณ 800 ตร.เมตร อยู่หน้าปากซอยศรีสมาน 8 ถ.ศรีสมาน ตำบล บ้านใหม่ อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี
    แผนที่การเดินทาง ไป พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue จ.นนทบุรี

    ถ้าขึ้นทางด่วนมาจากในเมือง พอเลยทางลงเมืองทองประมาณ 2 กม. ก็ตบไฟเลี้ยวซ้ายลง ถ.ศรีสมาน จ่ายค่าทางด่วนแล้วตบไฟชิดขวาไปทางดอนเมือง พอข้ามคลองประปาแล้วให้ U-Turn กลับมา ตัว Tooney Venue ( Toy Museum ) อยู่ติดกับทางขึ้นทางด่วน

    งานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ ครั้งที่สี่ (International Bangkok Bike 2014)

    งานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 4
    (International Bangkok Bike 2014) 
    ระหว่างวันที่ 2 - 5 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00 - 21.00 น.
    ณ ฮอลล์ 3-4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


    บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด(นีโอ) ร่วมกับ การท่องเที่ยวไทยแห่งประเทศไทย(ททท.) พร้อม 12 พันธมิตรยักษ์ใหญ่วงการจักรยาน ได้แก่ LA Bicycle, World Bike, Bike Zone, KH Cycle, Nesco Cycling, Asia Bike, Cycle Sport, V.T. Ventex, Global Bike, RAJA Cycle, THULE’, Vee Tire และผู้ประกอบการธุรกิจจักรยาน รวมกว่า 300 บูธ เปิดงาน “อินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 4” (International Bangkok Bike 2014)  หรือ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น ภายใต้แนวคิด “LOOK FORWARD” ตั้งเป้าขยายตลาดธุรกิจจักรยาน และการท่องเที่ยวโตอีก พร้อมยกระดับการจัดงานสู่งานเทรดแฟร์ คาดจัดงาน 4 วัน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท และยอดผู้เข้าชมงานกว่า 150,000 คนอย่างแน่นอน 


    นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานในพิธีเปิดงานครั้งนี้ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ปัจจุบัน กระแสความนิยมในการปั่นจักรยานในประเทศไทยเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่หันมารณรงค์การปั่นจักรยานอย่างจริงจัง โดยใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแทนรถยนต์ ซึ่งนอกจากเป็นการลดการใช้พลังงาน ประหยัดเงิน และลดมลภาวะในเมืองใหญ่ๆ แล้ว การปั่นจักรยานยังมีส่วนช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพอีกด้วย และในปัจจุบันการปั่นจักรยานยังได้พัฒนามาเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบที่มีเสน่ห์และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งมีวิถีชีวิตที่งดงาม มีอาหารที่อร่อย และธรรมชาติที่หลากหลาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สนใจกิจกรรมการปั่นจักรยานท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้ง ททท. ได้เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวด้วยจักรยาน เพื่อแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2015 ททท. ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ปีการท่องเที่ยววิถีไทยในตลาดทั่วโลก ภายใต้ชื่อแคมเปญว่า  DISCOVER THAINESS 2015 เพื่อปลุกกระแสและกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามาค้นหาความเป็นไทย โดยมีการจัดหมวดสินค้าทางการท่องเที่ยว ในปีท่องเที่ยววิถีไทย ขึ้นมาทั้งหมด 7 กลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ของสี ภายใต้ชื่อ “สีรุ้งแห่งความสุข” เชื่อมโยงความรู้สึกของนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้าถึงวิถีไทย 7 กลุ่มนั้น การปั่นจักรยาน เป็นหนึ่งในหมวดสินค้าท่องเที่ยวที่จะได้รับการโปรโมทในแคมเปญนี้ คือหมวด Feel Energetic ใช้สีน้ำเงิน ซึ่งหมวดนี้ยังมีการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมดำน้ำ มวยไทย กอล์ฟอีกด้วย
    โดยที่ผ่านมา ททท. มีการรณรงค์ ส่งเสริมการปั่นจักรยานท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะได้ให้การสนับสนุน บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ ในการจัดงานบางกอกไบค์ มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กระแสความนิยมการปั่นจักรยานท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี สำหรับภายในงานครั้งนี้ ททท. เน้นสานต่อกิจกรรมการเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวจากครั้งที่ผ่านมา โดยมีการทดสอบเส้นทางใหม่ที่มีความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ ในการปั่นจักรยานท่องเที่ยว อีก 2 เส้นทาง ได้แก่
    1.เส้นทาง ปั่นเที่ยวบางพลับ ตักบาตรขนมครก ซึ่งเป็นเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวระยะสั้น จาก กรุงเทพ - สมุทรสงคราม สามารถปั่นแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ หรือ แบบค้าง 1 คืนได้ ถือเป็นการปั่นจักรยานเพื่อชมวิถีชีวิต และสัมผัสประเพณีดั้งเดิมของชุมชนที่หาชมได้ยาก เช่น วิธีการโม่แป้งแบบโบราณเพื่อทำขนมครก ถวายแด่พระสงฆ์ วิธีการทำซอจากชุมชนบ้านพญาซอ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากถ่านผลไม้  การทำว่าวจุฬา การทำน้ำตาลมะพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในชุมชนยังมีเส้นทางปั่นจักรยานสีเขียวเพื่อชมสวนผลไม้อีกด้วย
    2.เส้นทาง ปั่นชมวิถีชีวิต บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เป็นเส้นทางการปั่นจักรยานแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อชมการทอผ้าไหม การทำผ้าหมักโคลน งานไม้ภูมิปัญญาตาวงษ์ งานแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ สัมผัสกิจกรรมการทำอาหาร และกิจกรรมพื้นบ้าน – ปั่นเที่ยวชมสวนผลไม้ เป็นต้น
    “สำหรับการร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ททท. คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยจักรยานของประเทศให้เพิ่มขึ้น จาก 260,000 คนเป็น 320,000 คน มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาปั่นจักรยานท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 15% ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวด้วยจักรยานในปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,200 ล้านบาท”


    ด้านนายศักดิ์ชัย  ภัทรปรีชากุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด  และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ผู้จัดงานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 4 กล่าวว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “LOOK FORWARD” โดย บริษัทฯ ตั้งเป้าเพื่อเป็นการยกระดับการจัดงานขึ้นสู่งานเทรดแฟร์ อันดับ 1 ของเมืองไทย จึงมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ในการเพิ่มจำนวนพันธมิตรการจัดงาน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรและผู้ประกอบการต่างๆ ทำให้ต้องขยายพื้นที่การจัดงานจากเดิม 5,000 ตรม. เป็น 7,000 ตรม. เพื่อรองรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการจาก 200 บูธเป็น 300 บูธ


    สำหรับไฮไลท์ที่สำคัญภายในงานครั้งนี้จะได้พบกับจักรยาน Hi-end โมเดลใหม่ล่าสุดปี 2015 และ New Design จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มาประชันโฉมกันอย่างคึกคักครบ และถือเป็นการเปิดตัวโมเดลใหม่ปี 2015 งานแรกในภูมิภาคเอเชีย หลังจากได้เปิดตัวที่งานยูโรไบค์(EUROBIKE 2014) เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอาทิ Look, BMC, Cervelo, Giant, Scott, Merida, Optima, GOGO BIKE, Panther นอกจากนี้ยังมีจักรยานพับ Brompton, Strida, Ori, Dahon หรือ จักรยานไฟฟ้าจาก LA E-Ride ที่บุกตลาดโลกมาแล้ว  นอกจากนี้ยังมี นวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมอะไหล่ อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์ตกแต่ง แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องกายของนักปั่น รวมไปถึงการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวด้วยจักรยาน พร้อมที่พัก โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ  เรียกได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าและบริการ เพื่อคนที่รักจักรยานเพื่อการเดินทาง และการท่องเที่ยวที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทยทีเดียว นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ร่วมจัดทำโปรโมชั่นอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ-ผู้ขายภายในงาน อาทิ ผ่อน 0 %นาน 10 เดือนเป็นต้น


    โดยภายในงานแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้
    โซนจักรยานสำเร็จรูปพบกับจักรยานสำเร็จรูปจากผู้ประกอบการทั้งผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย มากกว่า 20  แบรนด์ดัง รวมทั้งจักรยาน Hi-end  จักรยานพับ และจักรยานไฟฟ้า
    โซนแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายสำหรับนักปั่น ที่มีให้เลือกมากมาย  งานนี้ยกโขยงกันมาโชว์
    โซนอะไหล่ อุปกรณ์เสริม หรือ Gadgetต่างๆ ที่น่าสนใจทั้งเพื่อเพิ่มสมรรถนะจักรยาน
    โซนการท่องเที่ยวด้านจักรยาน ในแนวคิด We Love Bicycle ซึ่งได้รับการสนับสนุน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวใหม่ๆ มาเปิดตัวภายในงาน นอกจากนี้ยังมีโรงแรม รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยวด้านจักรยานมาร่วมแสดงงานอีกด้วย


    พลาดไม่ได้กับกิจกรรมและสีสันไฮไลท์ที่น่าสนใจต่างๆ อาทิเช่น
    การประมูลจักรยานวันละ 1 คัน เวลาประมาณ 16.30 น. ของทุกวัน เริ่มต้นที่คันละ 9,999 บาท/คัน รวม 4 คัน ได้แก่ จักรยาน Giant 1 คัน, จักรยาน Merida 2 คัน, จักรยาน Optima 1 คัน โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับองค์กรที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับจักรยานเพื่อสังคมต่อไป
    Exclusive Bike Parking จุดจอดและรับฝากจักรยานที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยเพื่อรองรับนักปั่นที่นำจักรยานเข้ามาชมงาน
    Indoor Bike Park หรือ สนามทดสอบทักษะในการปั่นจักรยาน ซึ่งภายหลังจากจบงานครั้งนี้ คณะผู้จัดงานจะร่วมกับห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี จะนำสนามนี้ ไปส่งมอบให้กับชุมชนจักรยานพระราม 8 เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในหมู่นักปั่นอีกด้วย
    พิเศษสุด สำหรับผู้ที่ซื้อของภายในงานตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป  มีสิทธิ์รับจักรยานจาก LA วันละ 1 คัน
    “การจัดงานครั้ง นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วัน กว่า 150,000 คน สร้างเงินสะพัดภายในงานทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท โดยงานดังกล่าว จะเป็นปัจจัยเสริมในการกระตุ้นภาพรวมของตลาดธุรกิจจักรยานของประเทศ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี”  นายศักดิ์ชัย กล่าวปิดท้าย


    งานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 4 (International Bangkok Bike 2014) หรือ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 5 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ฮอลล์ 3-4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2203-4232-3 หรือ www.internationalbangkokbike.com และ facebook : www.facebook.com/BKBEXPO

    บางกอก เจมส์ แอนด์ เจเวลรี่ แฟร์ (54th Bangkok Gems and Jewellery Fair)


    กำหนดการพิธีเปิดงาน
    Bangkok Gems & Jewelry Fair 54th
    วันอังคารที่ 9 กันยายน 2557 เวลา 08.30-10.30 น.
    ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์
    ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
    08.30-09.30 น. แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ลงทะเบียน
    09.30-09.45 น. ต้อนรับประธานเข้างาน พิธีกรขึ้นกล่าวต้อนรับเข้างาน
    และเรียนเชิญประธานฯ กล่าวเปิดงานและทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
    09.45-10.15 น. การแสดงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Fashion Show
    10.15-10.30 น. พิธีกรกราบเรียนเชิญประธานฯ และคณะกรรมการจัดงาน พร้อมกันที่ประตู
    เรียนเชิญประธานฯ ตัดริบบิ้นหน้าประตูทางออก
    และถ่ายรูปพร้อมกับเหล่านางแบบ
    10.35-10.45 น. เรียนเชิญประธานในพิธีเปิดโครงการ Design Pavilion
    จบงานพิธีเปิด

    The Thai government announced the lift of 20% tax on imported gems and jewellery products to be sold at the 54th Bangkok Gems and Jewellery Fair (BGJF54) this coming September.
    Because of this, foreign exhibitors will be allowed to bring in and sell gems and jewellery from other countries duty-free, while local exhibitors can reduce their selling prices after cutting down on imported parts and products’ costs. Local and foreign buyers can thus take advantage of 20% savings, giving them additional purchasing power at the Fair.
    “We are privileged to have the government working alongside us so directly,” says Somchai Phornchindarak, President of the Thai Gem and Jewellery Traders Association (TGJTA) and Chairman of the Gems, Jewelry and Precious Metal Confederation of Thailand. He said the government decision came at the heels of TGJTA’s strong advocacy for a concessional duty rate of 0%, and they are happy to see their requests granted.
    “The government has been with us every step of the way, helping to promote exports as well as developing overseas markets via trade fairs, road shows and exceptional exhibitions. All these changes predict a gleaming future for all,” added Phornchindarak.
    The concession involves a grace period of 15 days before and 15 days after the BGJF53. Products to be covered by the measure are pearls, precious stones and metals, imitation jewellery and coins – all categories that fall under the International Trade Commission (ITC)’s Harmonized System Code, Chapter 71.
    Suttipong Damrongsakul, Chief Executive Officer of the BGJF Organizing Committee, said the move would significantly propel Thailand to become the “golden gateway to the gems and jewellery industry of the Association of South East Asian Nations (ASEAN) — a region burgeoning with a 600 million population.”
    The import duty-free incentive can only be availed of at the BGJF54 though, by exhibitors endorsed by TGJTA. Sellers who are not endorsed would still have to pay the standard 20% import tax. Moreover, the regular 7% Value Added Tax still applies to all exhibitors, local and foreign.
    The BJGF54, scheduled this September 9-13 at Bangkok’s IMPACT Exhibition and Convention Center, is expected to draw tens of thousands of buyers from all around the world. Last February, the 53rd fair received over 30,000 visitors from more than 130 countries, including buyers from Dubai, Russia, China, Bahrain, Brazil and Canada. The bi-annual event is regarded as the world’s fifth and Asia’s second largest trade show in the gems and jewellery market. The fair boasts of gross export revenues exceeding Bt400,000 Million or US $12.8 Billion.
    Phornchindarak said the strength of the industry is built on such solid foundations as “excellent designs, reputed quality, premier craftsmanship and state-of-the-art technology. These qualities, along with best possible support services, have seamlessly propelled our industry, all despite rocky economic conditions worldwide since 2007.”
    Another tax-free initiative the BGJF is offering is the Zero VAT Pavilion, where buyers are exempted from paying the 7% value-added tax imposed on rough gems and raw materials imported into Thailand for manufacturing. It’s a government-backed policy that aims to strengthen the country’s position as the “World’s Gems and Jewellery Hub” and the largest manufacturing centre for such products in the entire globe. Damrongsakul says the Zero VAT Pavilion will surely entice buyers looking for excellent bargains.
    Aside from the tax cuts, TGJTA says it will initiate a variety of new features that will enhance trade activities like seminars, contests, trend updates, and special offers.
    Free 3-day, 2-night hotel accommodation for first-time visitors
    One of their new offers is a free 3-day, 2-night hotel accommodation for first-time visitors who avail of the Business Matching Service –a scheme that helps foreign buyers identify, locate and communicate with exhibitors long before the fair actually begins. After registration, customers are assisted by our dedicated staff members to view suppliers’ profiles, see their latest products, and select those whom they wish to meet. The service is free of charge, conducted online, and done in the comfort and privacy of buyers’ offices or homes. In return, sellers are able to study the buyers’ specifications and prepare customized sales pitches well ahead of time.
    “The service is immensely popular as it gives buyers the ability to both swiftly and accurately locate very specific suppliers in an amazingly fast and convenient way,” says Damrongsakul.
    Additional privileges that the Matching Service offers to is the chance for buyers to meet and sit with sellers, by appointment, in a private, comfortable room with special VIP service.
    According to TGJTA, hundreds of buyers from the previous fair availed of the service and were highly satisfied with it. Around $30,000 to $2 million worth of gems and jewellery were purchased using that method alone.
    At least 1,500 gem and jewellery suppliers participated in the 53rd fair last February. Organizers say they’re putting up additional booths this year, expecting a significant rise not only in the number of exhibitors, but also in the number of booths they’ll be renting. The Fair already boasts of 3,500 booths spread across 100,000 square meters of commercial space, but these are limited and are fast running out. Exhibitors are thus urged to register and reserve their place right away.
    Now running on its 30th year, BGJF54 will be held at the IMPACT’s famous Challenger Hall, Asia’s largest column-free, ground-level exhibition facility. Shuttle service will be available to and from Bangkok’s 5-star hotels to give added convenience to buyers and sellers alike.
    ( Source : Lift of 20% tax at the 54th Bangkok Gems and Jewellery Fair )

    ขอเชิญชวนร่วมพิธีทอดผ้าป่าสร้างศูนย์เด็กใหม่ (Invited to attend the charity build a new children's center)

    หลบร้อนการเมืองแห่เที่ยวนอกคึก บัตรเครดิตหนุนงานแฟร์บูม "เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก" (Tourism in Thailand to World)


    หลบร้อนการเมืองแห่เที่ยวนอกคึก บัตรเครดิตหนุนงานแฟร์บูม "เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก" (Tourism in Thailand to World)





    ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    คนไทยแห่เที่ยวเมืองนอกคึกคัก หลบร้อนการเมือง "ทีทีเอเอ" เข็นงานแฟร์ "เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก" ปลุกมู้ดท่องเที่ยวทั้งใน-ต่างประเทศ เผย "ญี่ปุ่น" ยังฮอตฮิตติดลมบน คาดปีนี้แตะ 1 ล้านคน เผยทัวร์เอาต์บาวนด์แข่งดุดัมพ์ราคาหนุน "บัตรเครดิต" อัดโปรโมชั่นกระตุ้น
    นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะร้อนแรงขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้คนไทยชะลอการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศแต่อย่างใด สมาคมจึงยังคงเดินหน้าจัดงานคอนซูเมอร์แฟร์ "เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก" ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นงานที่จะเป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อและมู้ดเที่ยวของตลาดในประเทศและ ตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศ (เอาต์บาวนด์)สำหรับปีนี้ด้วย

    ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมาร่วมเปิดบูทเพื่อเสนอขายสินค้าท่องเที่ยว 750 บูท จากพื้นที่จัดงาน 1,000 บูท เนื่องจากมีบางส่วนที่ยังไม่มั่นใจสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว (เอ็นทีโอ) ของประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมงาน 17 องค์การ คาดว่าจะมีรายได้ราว 500 ล้านบาท จาก 1,000 ล้านบาท ในปีที่สถานการณ์ปกติ

    ขณะนี้เที่ยวบินประจำเส้นทางไทย-ญี่ปุ่น ยังมียอดจองสูง คนไทยยังนิยมไปเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนซึ่งตรงกับปิดเทอม นอกจากนี้สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ก็ยังได้ทยอยเปิดตัวให้บริการเส้นทางบินไปญี่ปุ่นมากขึ้น พอการแข่งขันสูงขึ้น สายการบินต่าง ๆ ก็จะเน้นการตัดราคาเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวไทย

    "ตอนนี้แม้ไทยจะมี ปัญหาการเมือง ซึ่งกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว แต่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยทั้งหน้าใหม่และกลุ่มเดินทางซ้ำ โดยแนวทางการทำการตลาดจะเน้นเรื่องการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและ ชาติอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้ผลดีมาก เฉพาะครึ่งปีหลังที่ประกาศยกเว้นวีซ่า พบว่ามีคนไทยเดินทางไป ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 2 แสนคน ทำให้ยอดคนไทยไปญี่ปุ่นตลอดทั้งปีเพิ่มเป็น 4.6 แสนคน และคาดว่าปีนี้จะมีคนไทยไปญี่ปุ่นแตะ 1 ล้านคน"

    ด้านนาย ธนพล ชีวรัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยทางการเมืองไม่ได้กระทบต่อดีมานด์คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ แต่การแข่งขันของบริษัททัวร์จะสูงขึ้น เพราะเที่ยวบินขาเข้าที่ขนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามานั้น มีการยกเลิกหรือปรับจำนวนเที่ยวบินลง ทำให้ที่นั่งบนเครื่องบินว่าง บริษัททัวร์เอาต์บาวนด์จึงต้องแข่งขันแย่งตลาดคนไทย เพื่อไปเติมเต็มที่นั่งบนเที่ยวบินในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนให้ได้มากที่สุด

    สำหรับ ตลาดทัวร์เอาต์บาวนด์ไปญี่ปุ่น บริษัทได้เสนอขายแพ็กเกจโดยใช้บริการสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่เน้นทำตลาดตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด ทำให้ราคาแพ็กเกจทัวร์ลดลง 10,000 บาท เมื่อเทียบกับราคาปกติที่ใช้บริการสายการบินพรีเมี่ยม และคาดว่าเส้นทางไปญี่ปุ่นของบริษัทจะเติบโตกว่า 10% ในปีนี้ ขณะที่ภาพรวมตลาดจะโตกว่า 50% หลังจากปีที่แล้ว กระแสการเดินทางไปญี่ปุ่นดีมาก เติบโต 100% จากปี 2555 โดยยอดจองส่วนใหญ่ยังนิยมเที่ยวโตเกียว-โอซากา

    อย่างไรก็ตามแม้แนว โน้มเงินบาทจะอ่อนค่าลง แต่อยู่ในระดับที่ลูกค้าคนไทยสนใจเดินทางไปยุโรปยอมรับราคาแพ็กเกจทัวร์ที่ ปรับสูงขึ้นราว 10% ได้ จากราคาเฉลี่ยทั่วไปที่ขาย 50,000 บาทต่อแพ็กเกจ และปีนี้คาดว่าภาพรวมยอดนักท่องเที่ยวตลาดเอาต์บาวนด์จะเพิ่มอีกประมาณ5 แสนคน เป็น 5.8 ล้านคน จากปีที่แล้วที่ปิดตัวเลขไป 5.3 ล้านคน ส่วนใหญ่ยังนิยมเดินทางไปจุดหมายปลายทางในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ราว 4 ล้านคน ส่วนที่เหลือนิยมไปยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศสและอิตาลี

    ด้าน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เตรียมเปิดตัวแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยว

    "บัตร เครดิตกสิกรไทย บัตรเดียว เที่ยวเหมาลำ" สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตกสิกรไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสำหรับกิจกรรมด้านการท่อง เที่ยวให้เติบโตขึ้น

    "ตั้งแต่ต้นปีเราเห็นสัญญาณว่ายอดใช้จ่ายผ่าน บัตรในหมวดการท่องเที่ยวเติบโตแค่ 5-8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วขยายตัวถึง 52% และตลอดไตรมาส 1/2557 ตลาดคงซบเซา อย่างไรก็ตามปีนี้เราคงต้องใส่เงินกับแคมเปญในกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นตลาด เน้นการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก แต่ก็ต้องตอบโจทย์กลุ่มที่ต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย" นายชาติชายกล่าวและว่า

    ในช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาถึงต้นปีนี้ มีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อการท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากพอ สมควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการพักผ่อนและหนีจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง แต่ก็จะเป็นเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หรือเป็นระดับนักธุรกิจหรือเจ้าของกิจการ

    ขณะที่นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตในปีที่แล้วในหมวดท่องเที่ยวเติบโตได้ค่อนข้างดี ซึ่งเป็นผลจากการทำแคมเปญการตลาดและธนาคารเข้าไปร่วมสนับสนุนงานท่องเที่ยว ต่าง ๆ ซึ่งขายแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่การตอบรับดีมาก

    "ปกติ เราจะทำแคมเปญเรื่องคะแนนสะสมเป็นจุดขาย เช่น ถ้าใช้จ่ายในต่างประเทศจะให้คะแนนสะสมพิเศษเป็น 5 เท่า หรือ 10 เท่า หรือบางกลุ่มที่เป็นตลาดเฉพาะ เดินทางบ่อยตั้งแต่ปีละ 2 ครั้งขึ้นไป เราก็จะเสนอแคมเปญพิเศษตรงไปที่ลูกค้ามากกว่า เช่น ถ้าใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างประเทศตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป สามารถแลกคะแนนเป็นไมล์สายการบินได้ในอัตรา 1 ต่อ 1 ปีนี้ก็คงเอามาใช้ แต่ดูจังหวะอีกครั้งหนึ่ง" นางสาวอารยากล่าว


    จาก: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    การบินไทยปรับตารางการบินฤดูร้อน (Thai Airways to Adjust Summer Flight Schedule)

    การบินไทยปรับตารางการบินฤดูร้อน (Thai Airways to Adjust Summer Flight Schedule)


    ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับตารางการบินประจำภาคฤดูร้อนประจำปี 2557 และยืนยันให้บริการผู้โดยสารตามปกติไม่มีการชัตดาวน์ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557
    นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามปกติบริษัทฯ จะมีการแบ่งตารางการบินเป็น 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ตารางการบินประจำภาคฤดูร้อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนตุลาคม และตารางการบินประจำภาคฤดูหนาว ซึ่งเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม – ปลายเดือนมีนาคม

    ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะทางการตลาดในแต่ละช่วง ซึ่งตารางการบินในแต่ละช่วงเวลาจะมีการปรับเปลี่ยนตารางการบินในเส้นทางต่างๆ สำหรับตารางการบินประจำภาคฤดูร้อนในปี 2557 นี้ บริษัทฯจะมีการปรับตารางการบินของการบินไทยและการบินไทยสมายล์ ดังนี้

    1.เที่ยวบินที่ปรับเพิ่มตามฤดูกาล เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – มาดริด จาก 3 เที่ยวบิน เป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – เดนปาซาร์ จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็นทุกวัน เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ฉงชิ่ง จาก 3 เที่ยวบิน เป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – โคลัมโบ จาก 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็นทุกวัน เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ไฮเดอราบัด จาก 4 เที่ยวบิน เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    2.เที่ยวบินที่ปรับลดตามฤดูกาล เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – แฟรงก์เฟิร์ต จาก 6 เที่ยวบิน เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – โคเปนเฮเกน จาก 7 เที่ยวบิน เป็น 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ออสโล จาก  7 เที่ยวบิน เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – สตอกโฮล์ม จาก 7 เที่ยวบิน เป็น 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์  เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – ซูริก จาก 7 เที่ยวบิน เป็น 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – มอสโก จาก 6 เที่ยวบิน เป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – บริสเบน จาก 7 เที่ยวบิน เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด จาก 4 เที่ยวบิน เป็น 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    และ 3.เที่ยวบินที่ยกเลิกชั่วคราวตามฤดูกาล เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – เซนได เส้นทางไป-กลับ โคเปนเฮเกน – ภูเก็ต เส้นทางไป-กลับ สตอกโฮล์ม – ภูเก็ต และเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง

    นายโชคชัยกล่าวว่า การปรับลดและเพิ่มบางเที่ยวบินเป็นไปตามการปรับเที่ยวบินตามฤดูกาล ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด รวมถึง กรณีที่มีกระแสข่าวชักชวนพนักงานให้ร่วมชัตดาวน์การบินไทย ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 จนทำให้มีผู้โดยสารวิตกกังวลว่าการบินไทยยังคงให้บริการหรือไม่นั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่า พนักงานทุกฝ่ายยังคงพร้อมให้บริการผู้โดยสารตามปกติ และไม่มีการชัตดาวน์แต่อย่างใด

    จาก: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    วัดอัมพวัน (wat Ampawan) นนทบุรี

    วัดอัมพวัน นนทบุรี
    วัดอัมพวัน
    นนทบุรี
    วันเปิดทำการ:
    ทุกวัน
    เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 16.30
    ข้อมูลการติดต่อ
    หมวดหมู่ : วัด
    รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :
         สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อ วัดบางม่วง สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ หอไตรกลางน้ำ เป็นสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์ที่สุด  เป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูง ตัวหอมีขนาด 2 ห้อง ช่วงล่างเป็นลูกฟักกระดานดุน ตอนบนเป็นซี่ลูกกรงไม้ กลึงเสา กรอบประตูเป็นเสาหัวเม็ด ประตูหูช้าง  เครื่องลำยองเป็นไม้จำหลัก  หลังคาซ้อน 2 ชั้น   มีปีกนก 1 ชั้น  มุงกระเบื้องดินเผาใต้เชิงชาย  และหน้าบันประดับไม้สลักลายรดน้ำ
    หน้าบานประตูทางเข้าหอไตรเป็นบานไม้ลงรัก ปิดทอง ลายพุ่มข้าวบิณฑ์  อกเลาเป็นไม้จำหลักลายดอกพุดตาน ลูกฟัก เหนือประตูเป็นภาพนกข้างละตัว เหนือขึ้นไปเป็นภาพพระอาทิตย์ พระจันทร์ ในห้องสะกัดท้ายหอไตรเป็นที่เก็บพาน ตะลุ่มและฐานพระพุทธรูปไม้จำหลักจำนวนมาก  
          การเดินทาง
     เรือ โดยสารเรือหางยาวจากท่าเรือหน้าที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
     รถยนต์ ใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอกบางบัวทอง-ตลิ่งชัน   เลี้ยวแยกซ้ายมือที่ตำบลบางม่วง

    http://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม/รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว/วัดอัมพวัน--962

    ไทยแลนด์ เมก้า โชว์ 2557 (Thailand MEGA Show 2557)

       ไทยแลนด์ เมก้า โชว์ 2557 arrow_blue 
    ไทยแลนด์ เมก้า โชว์ 2557
    type:(ประเภท)  type:Exhibition Public
    Date:(วันจัดงาน)  11 January 2014 - 19 January 2014
    Location:(สถานที่)  Venue : อาคาร 1-8
    Description:(รายละเอียด)
    งานแสดงสินค้าเพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยงานแสดงสินค้า
    ไลฟ์สไตล์เพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวบรวมกลุ่มสินค้าทุกประเภท
    เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมงาน ทั้งสินค้าในชีวิตประจำวันและสินค้า
    เพื่อการช้อปปิ้ง ยิ่งใหญ่เต็มพื้นที่ อาคาร 1-8 ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี
    ประเภทสินค้าภายในงาน
    - เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน
    - เครื่องใช้ไฟฟ้า
    - สินค้า IT และอุปกรณ์ต่อพ่วง
    - สตูดิโอ วิวาห์ และสินค้าเพื่องานวิวาห์
    - ต้นไม้ พรรณไม้ และการจัดสวน
    - ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม
    - สินค้าเพื่อสุขภาพความงานและสปา
    - สินค้าเกี่ยวกับเด็ก และของเล่น
    - สินค้าแฟชั่น และอัญมณี
    - สินค้า อินเตอร์แบรนด์
    - อาหาร และของฝากจากภาคต่างๆ
    เวลา 11.00-21.00 น.
    Contact Event Organiser
    บริษัท เวิลด์ แฟร์ จำกัด
    โทร. 02-731–1331
    โทรสาร 02-375–9206
    อีเมส์ : exhibit@worldfair.co.th

    เว็บไซต์ : www.worldfair.co.th
    ประกันภัยรถยนต์

    ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1, ชั้น 2+ และ 3+, ชั้น 3

    ทางเลือกใหม่ของการทำประกันภัย SILKSPAN เป็นบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัย เลขที่ 5/2543 ภายใต้การการกำกับดูแลของ บริษัทฯ เน้นการให้คำปรึกษาที่เป็นกลางและยึดประโยชน์ สูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วกว่า 1,000,000 รายตั้งแต่ปี 2543

    ให้คุณมากกว่า คลิกดูรายละเอียด


    ให้คุณมากกว่า
    รวดเร็ว
    รวดเร็วคำนวณเปรียบเทียบเบี้ยกว่า
    20 บริษัทประกันใน 30 วินาที
    คุ้มค่ากว่า
    คุ้มค่ากว่าฟรี บริการช่วยรถฉุกเฉิน
    24 ชม. ,รถใช้ระหว่างซ่อม/ค่าเดินทาง
    ประหยัดกว่า
    ประหยัดกว่าผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิต
    นานสูงสุด 10 เดือน
    สะดวก
    สะดวกสั่งซื้อออนไลน์ในราคาพิเศษสุด*
    พร้อมรับกรมธรรม์ทันทีทางอีเมล**
    มั่นใจ
    มั่นใจรับประกันคืนเงิน 100%
    หากเจอที่อื่นถูกกว่า
    Email Alert
    Email Alertแจ้งเตือน ต่ออายุประกันรถ
    พ.ร.บ. - ต่อทะเบียนล่วงหน้า ฟรี
    *บางกรมธรรม์จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ **ชำระสดลด 5% หรือผ่อน 0% นาน 10 เดือน ***เฉพาะประกันประเภท 5
    เลือกจังหวัดที่ต้องการค้นหาหรือจองโรงแรม

    Hotels in Thailand

    nonthaburi2go in association with agoda.com
    AGODA ® is a registered trademark of AGIP LLC, used under license by Agoda Company Pte. Ltd.
    Agoda is part of priceline(NASDAQ:PCLN)