เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
สวัสดีค่ะ nonthaburi2go ยินดีต้อนรับค่ะ
จังหวัดนนทบุรี
เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมีฐานะเป็นตำบลหนึ่งในท้องที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 4.12 ตารางกิโลเมตรหรือ 2,489 ไร่ เป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาเป็นส่วนใหญ่... วิกิพีเดีย


เลือกจังหวัดที่ต้องการจองโรงแรม
สถานที่สำคัญในนนทบุรี

แหล่งท่องเที่ยว


 
 
 
จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์
 
  •   รายชื่อวัดในจ.นนทบุรี »
  • รายชื่อโรงแรมในจ.นนทบุรี »
  • ค้นหาโรงแรมใน นนทบุรี»
  • ร้านอาหารในจ.นนทบุรี »
  • ปฏิทินกิจกรรมอิมแพ็คฯ »
  • จองตั๋วเครื่องบิน »
  • ตารางเวลารถไฟ »
  • มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (Sukhothai Thammathirat Open University)


    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช



    ขอขอบคุณข้อมูล จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    Sukhothai Thammathirat Open University
    Symbol Sukhothai Thammathirat Open University
    คติพจน์ เรียนอย่างมีความสุข จบอย่างมีคุณภาพ
    ประเภท รัฐ มหาวิทยาลัยเปิด
    อธิการบดี รศ.ดร.สมจินต์ สันถวรักษ์[1]
    (รักษาราชการแทน)
    นายกสภามหาวิทยาลัย ศ.ดร.คณิต ณ นคร
    (รักษาราชการแทน)
    ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
    เว็บไซต์ www.stou.ac.th
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (อังกฤษ: Sukhothai Thammathirat Open University;ชื่อย่อ:มสธ.-STOU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐแบบไม่จำกัดรับ (มหาวิทยาลัยเปิด) แห่งเดียวของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยเปิดโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกลแห่งเดียวในประเทศไทย
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจัดตั้งขึ้นเพื่อขยายและกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ประชาชน มีลักษณะเป็นมหาวิทยาลัยในระบบเปิด ดำเนินการดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ตามพระนามกรมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์ นำมาประกอบกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ กรุงสุโขทัย เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย
    เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยใน พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พุทธศักราช 2521 มหาวิทยาลัยจึงกำหนดวันที่ 5 กันยายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย [2]
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแบบมหาวิทยาลัยเปิดโดยรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเปิดการศึกษาถึงระดับดุษฎีบัณฑิตในบางสาขาวิชา[3] โดยมีการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาเหมือนมหาวิทยาลัยปิดทั่วไป[4]
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชไม่มีชั้นเรียนตามปรกติเหมือนมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล ซึ่งจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากเอกสารชุดวิชาจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้นักศึกษา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น
    ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในอดีต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนถึงปัจจุบัน

    เนื้อหา

    ประวัติ


    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแบบ "มหาวิทยาลัยเปิด" กล่าวคือรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน โดยมหาวิทยาลัยไม่มีชั้นเรียนตามปรกติเหมือนมหาวิทยาลัยปิดและมหาวิทยาลัยตลาดวิชาซึ่งดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล จัดการเรียนการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากเอกสารชุดวิชาจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้นักศึกษา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น

    แนวคิดของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิดในประเทศไทย

    การก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิด เป็นความพยายามของรัฐบาลในการที่จะขยายโอกาสการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ประชาชนให้มากที่สุด แนวคิดนี้ได้เคยนำมาใช้แล้วในประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2476 ได้จัดการศึกษาระบบ "ตลาดวิชา" โดยไม่จำกัดรับนักศึกษา เป็นครั้งแรก แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบมหาวิทยาลัยปิด (จำกัดการรับนักศึกษา) เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่อมาปี พ.ศ. 2514 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแบบตลาดวิชาขึ้นอีกแห่งหนึ่ง คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่มหาวิทยาลัยรามคำแหงยังคงจัดการศึกษาโดยอาศัยชั้นเรียนเป็นหลัก ทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงประสบปัญหาในด้านอาคารสถานที่เรียนเป็นอันมาก ทำให้ไม่สามารถขยายให้เพียงพอกับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นทุกปีได้ ทางรัฐบาลเล็งเห็นว่าหากรัฐบาลให้การสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงจัดการศึกษาให้เพียงพอกับความต้องการของผู้เรียนแล้วจะทำให้ภาครัฐต้องรับผิดชอบภาระด้านงบประมาณมากขึ้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
    ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้แก่ประชาชน ให้กว้างขวางที่สุด โดยใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชขึ้น โดยดำเนินการในระบบมหาวิทยาลัยเปิด จัดการเรียนการสอนโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จึงเป็นมหาวิทยาลัยเปิด โดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล แห่งเดียวในประเทศไทย[5]

    การสถาปนามหาวิทยาลัย


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานนามมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตามพระนามทรงกรมของ "สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิ์เดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา" (รัชกาลที่ 7) โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปรับสร้อยพระนามทรงกรมของรัชกาลที่ 7 เล็กน้อย (ภาพ:หนังสือแจ้งพระราชทานนามมหาวิทยาลัยฯ ยังทบวงมหาวิทยาลัย)
    มหาวิทยาลัยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ตามพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็น "กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา" และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์ นำมาประกอบกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย
    เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ใน พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521[6] มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้ วันที่ 5 กันยายน ของทุกปีเป็น วันสถาปนามหาวิทยาลัย

    อธิการบดีคนแรก

    ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดแรก[7] รวมทั้งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน ให้ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีคนแรก

    การเปิดดำเนินการการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย


    สาขาวิชาที่เปิดสอน 3 สาขาวิชาแรกของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คือ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ (ภาพ:ห้องประชุมอาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
    หลังจากได้ใช้เวลาเตรียมการด้านต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมที่จะเปิดสอนเป็นเวลาประมาณ 2 ปี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงได้เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2523[8] สาขาวิชาที่เปิดสอน 3 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ[9] โดยมี ผู้สนใจลงทะเบียนเรียน จำนวน 82,037 คน
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 มหาวิทยาลัยได้ขยายการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นในสาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์(มนุษยนิเวศศาสตร์) และสาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ปีการศึกษา 2526(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์) มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชารัฐศาสตร์ ปีการศึกษา 2527 เปิดสอนสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ในปีการศึกษา 2538 มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในปี พ.ศ. 2544 ได้เปิดสอนสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีกสาขาวิชาหนึ่ง รวมเป็น 12 สาขาวิชา

    ปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (รุ่นแรก)
    ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงมีอำนาจให้ปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรที่มีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของรัฐอื่น ๆ ทุกประการ
    มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรก ณ อาคารใหม่สวนอัมพร เมื่อวันที่ 26 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2527 โดยเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรุ่นแรก (ประจำปีการศึกษา 2525) ซึ่งในปีนั้นมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 9,594 คน จาก 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ [10]
    ในอดีต ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จนถึงปัจจุบัน นับเป็นความภูมิใจของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อย่างหาที่สุดมิได้

    สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

    ตราประจำมหาวิทยาลัย

    มหาวิทยาลัยได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์เรียงกันบนบันไดแก้ว ได้แก่ "พระแสงศรพรหมาศาสตร์" "พระแสงอัคนิวาต" "และพระแสงศรพลายวาต" ประดิษฐานอยู่ภายใต้ พระมหามงกุฏ นำมาประกอบกับส่วนยอดของ "เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย และมีข้อความ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช" อยู่ในแถบริ้วเบื้องล่าง เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย[11]

    เสื้อครุยของมหาวิทยาลัย

    เสื้อครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยเป็นเสื้อคลุม ผ้าโปร่งสีขาว ผ่าอกตลอดรอบขอบและที่ต้นแขนกับปลายแขน มีแถบสีทองทาบทับด้วยแถบทองบริเวณอกเสื้อทั้งสองข้างมีวงกลมสีทอง กลางวงมีตรามหาวิทยาลัย ปริญญาตรี มี 1 วง ปริญญาโทมี 2 วง ปริญญาเอก มี 3 วง[12]

    ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย


    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปลูกต้นปาริชาตต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    มหาวิทยาลัยกำหนดให้ ต้นปาริชาตหรือต้นทองหลางลายเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีใบเป็นสีเขียวและเส้นใบเป็นสีทอง ตรงกับสีเขียว-ทองซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย

    สีประจำมหาวิทยาลัย

    "สีเขียว - ทอง" เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
    • ?? สีทอง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล

    รายนามอธิการบดี

    นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีอธิการบดีมาแล้ว 5 ท่าน และ รักษาการแทนอธิการบดี 1 ท่าน ดังรายนามต่อไปนี้
    รายนามอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    รายนามอธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง อ้างอิง
    1. ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน 7 มกราคม พ.ศ. 2522 - 7 มกราคม พ.ศ. 2526 (วาระที่ 1)
    7 มกราคม พ.ศ. 2526 - 6 มกราคม พ.ศ. 2530 (วาระที่ 2)
    7 มกราคม พ.ศ. 2530 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 (วาระที่ 3)
    [1]
    [2]
    [3]
    2. ศาสตราจารย์ ดร.เอี่ยม ฉายางาม 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 (วาระที่ 1)
    20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 (วาระที่ 2)
    20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2543 (วาระที่ 3)
    [4]
    [5]
    [6]
    3. รองศาสตราจารย์ ดร.ทองอินทร์ วงศ์โสธร 22 มีนาคม พ.ศ. 2543 - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 [7]
    4. ศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551 [8]
    5. รองศาสตราจารย์ ดร.ปราณี สังขะตะวรรธน์ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555 [9]
    6. รองศาสตราจารย์ ดร.สมจินต์ สันถวรักษ์ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน (กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการแทนอธิการบดี) [10]

    อาคารที่สำคัญในมหาวิทยาลัย


    อาคารทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัย
    • อาคารพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นอาคารสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งได้ประยุกต์สถาปัตยกรรมไทยสมัยสุโขทัยมาใช้ในการออกแบบก่อสร้าง โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ออกแบบ การจัดวางอาคารนั้นตั้งอยู่กึ่งกลางของอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัย[13]
    • หอพระ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว ตัวอาคารหอพระออกแบบโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ โดยตัวอาคารมีเอกลักษณ์สะท้อนรูปลักษณะศิลปสุโขทัย อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัย ตัวอาคารสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2551 การจัดวางอาคารนั้นตั้งอยู่บริเวณมุมด้านเหนือของอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษกใกล้กับถนนหลักภายในมหาวิทยาลัย ตัวอาคารยกพื้นสูงจากระดับปรกติ จึงทำให้มีความโดดเด่นสะดุดตา[15]
    • ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยุ่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ตั้งอยู่ ณ อาคารบรรณสาร ชั้นสอง ออกแบบตกแต่งด้วยรูปลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 7 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและให้บริการข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระหว่างพ.ศ. 2468-2477 [16]

    สาขาวิชาที่เปิดสอน

    ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดทำการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร, ปริญญาบัณฑิต, ประกาศนียบัตรบัณฑิต, และปริญญามหาบัณฑิต กระจายไปตามสาขาวิชาต่าง ๆ โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีสาขาวิชาทั้งหมด 12 สาขาวิชา (เป็นหน่วยงานตามประกาศกระทรวงฯ 10 สาขาวิชา[17] เป็นหน่วยงานภายใน 2 สาขาวิชา) ดังนี้
    • สาขาวิชาศิลปศาสตร์
    • สาขาวิชาศึกษาศาสตร์
    • สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
    • สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์
    • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    • สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์

    ศูนย์วิทยพัฒนา


    อาคารวิชาการ 3 (ตึกด้านขวามือ) สถานที่ตั้งที่ทำการสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    ศูนย์วิทยพัฒนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบการศึกษาทางไกลของมหาวิทยาลัย โดยเริ่มเปิดศูนย์วิทยพัฒนามหาวิทยาลัยฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2534
    ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีศูนย์วิทยพัฒนาทั้งสิ้น 10 ศูนย์ กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ ครบทุกภาคของประเทศไทย ดังนี้[18]

    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดลำปาง
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดสุโขทัย
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดนครสวรรค์
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดอุดรธานี
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดอุบลราชธานี
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดนครนายก
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดเพชรบุรี
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดจันทบุรี
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดนครศรีธรรมราช
    • ศูนย์วิทยพัฒนามสธ. จังหวัดยะลา

    การจัดอันดับมหาวิทยาลัย

    การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 มสธ. อยู่ในอันดับที่ 2,335 ของโลก อันดับที่ 82 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 29 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[19]

    อ้างอิง

    1. ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เล่ม ๑๒๕, ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง, ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑, หน้า ๑๗
    2. ^ ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    3. ^ การรับสมัครนักศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    4. ^ ลักษณะการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษาในระบบการศึกษาทางไกลของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    5. ^ ความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยตลาดวิชากับมหาวิทยาลัยเปิด เว็บไซด์วิชาการ.คอม
    6. ^ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521, เล่ม 95, ตอน 99, 21 กันยายน พ.ศ. 2521, หน้า 1
    7. ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เล่ม ๙๕, ตอน ๑๒๕, ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑, ฉบับพิเศษ หน้า ๑
    8. ^ จดหมายเหตุบอกเล่า เรื่อง การเปิดรับนักศึกษารุ่นแรก, โครงการเผยแพร่สารสนเทศจดหมายเหตุมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    9. ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศทบวงมหาวิทยาลัย เรื่อง การจัดตั้งสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เล่ม ๙๖, ตอน ๒๘, ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒, หน้า ๑๑๗
    10. ^ จดหมายเหตุบอกเล่า ตอน พิธีพระราชทานปริญญาบัตร, โครงการเผยแพร่สารสนเทศจดหมายเหตุมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    11. ^ นายพิชัย วาศนาส่ง เป็นผู้ออกแบบตราประจำมหาวิทยาลัย
    12. ^ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะและเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. ๒๕๒๔, เล่ม ๙๘, ตอน ๑๘๐, ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๔, หน้า ๗
    13. ^ ทำเนียบศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (สถาปัตยกรรม) พ.ศ. ๒๕๓๗
    14. ^ สถานที่พระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    15. ^ 30 ปี แห่งการสถาปนา มสธ. สร้างหอพระ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปี, ไทยพีอาร์ ดอตเน็ต, 2008-07-3. เรียกข้อมูลวันที่ 2008-09-20
    16. ^ พิธีเปิดห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๘
    17. ^ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การจัดตั้งสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    18. ^ สำนักวิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
    19. ^ Ranking Web of World UniversitiesTop South East Asia

    ดูเพิ่ม

    ประกันภัยรถยนต์

    ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1, ชั้น 2+ และ 3+, ชั้น 3

    ทางเลือกใหม่ของการทำประกันภัย SILKSPAN เป็นบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัย เลขที่ 5/2543 ภายใต้การการกำกับดูแลของ บริษัทฯ เน้นการให้คำปรึกษาที่เป็นกลางและยึดประโยชน์ สูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วกว่า 1,000,000 รายตั้งแต่ปี 2543

    ให้คุณมากกว่า คลิกดูรายละเอียด


    ให้คุณมากกว่า
    รวดเร็ว
    รวดเร็วคำนวณเปรียบเทียบเบี้ยกว่า
    20 บริษัทประกันใน 30 วินาที
    คุ้มค่ากว่า
    คุ้มค่ากว่าฟรี บริการช่วยรถฉุกเฉิน
    24 ชม. ,รถใช้ระหว่างซ่อม/ค่าเดินทาง
    ประหยัดกว่า
    ประหยัดกว่าผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิต
    นานสูงสุด 10 เดือน
    สะดวก
    สะดวกสั่งซื้อออนไลน์ในราคาพิเศษสุด*
    พร้อมรับกรมธรรม์ทันทีทางอีเมล**
    มั่นใจ
    มั่นใจรับประกันคืนเงิน 100%
    หากเจอที่อื่นถูกกว่า
    Email Alert
    Email Alertแจ้งเตือน ต่ออายุประกันรถ
    พ.ร.บ. - ต่อทะเบียนล่วงหน้า ฟรี
    *บางกรมธรรม์จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ **ชำระสดลด 5% หรือผ่อน 0% นาน 10 เดือน ***เฉพาะประกันประเภท 5
    เลือกจังหวัดที่ต้องการค้นหาหรือจองโรงแรม

    Hotels in Thailand

    nonthaburi2go in association with agoda.com
    AGODA ® is a registered trademark of AGIP LLC, used under license by Agoda Company Pte. Ltd.
    Agoda is part of priceline(NASDAQ:PCLN)